Pitukpong's Blog

หน้าแรก » กริยา 3 ช่อง

กริยา 3 ช่อง

กริยา 3 ช่อง คือ อะไร คือคำเรียกที่ให้ง่ายแก่การเข้าใจ เพราะมันมีสามช่องนั่นเอง กริยาสามช่องนี้จะนำไปใช้เมื่อเราเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tense ครับ เพราะโครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้ช่องที่หนึ่งบ้าง สองบ้าง หรือสามบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเป็น Tense อะไร หลังจากที่เรียนเรื่อง Tense เข้าใจแล้วรับรองว่าจะหายงงเลยครับว่าที่เรียกว่าสามช่องเพราะเหตุใด

กริยา 3 ช่อง ที่ใช้บ่อยๆ ก็มีตามที่คัดมาให้ด้านล่าง คำที่พิมพ์หนาหมายถึง คำที่ใช้บ่อยสุดๆ ต้องจำให้ได้เลย

Irregular Verb กริยาอปกติ

ช่อง 1 ช่อง 2 ช่อง 3 แปล

1

be = is, am, are was, were been เป็น อยู่ คือ

2

become (บิคั๊ม) became  (บิเค๊ม) become กลายเป็น

3

begin (บิกิ๊น) began  (บิแก๊น) begun (บิกั๊น) เริ่มต้น

4

bet  เบ็ท bet เบ็ท bet พนัน

5

bite ไบท bit บิท bitten (or bit) บิทเทิน กัด

6

bleed บลีด bled  เบล็ด bled เลือดออก

7

blow บโล blew บลู blown บโลน พัด เป่า ตี

8

break เบรก broke บโรค broken บโรคเคิน แตก

9

bring บริง brought บรอท brought นำมา เอามา

10

build บิลด built  บิลท built สร้าง

11

burst เบิสท burst burst ระเบิด

12

buy บาย bought บอท bought ซื้อ

13

catch แค็ทช caught คอท caught จับ , ขึ้นรถ

14

choose ชูส chose โชส chosen โชเซิน เลือก

15

come  คัม came เคม come มา

16

cost  คอสท cost cost มีราคา

17

cut cut cut ตัด

18

dig  ดิก dug ดัก dug ขุด

19

dive ไดฝ dived (or doveโดฝ) dived ไดฝด ดำนํ้า

20

do ดู did ดิด done ดัน ทำ

21

draw ดรอ drew ดรู drawn  ดรอน ลาก วาด เขียน

22

drink  ดริงค drank ดแรงค drunk ดรังค ดื่ม

23

drive ไดรฝ drove ดโรฝ driven ดริฝเฝิน ขับ(รถ)

24

eat อีท ate เอท eaten อีทเทิน กิน

25

fall ฟอล fell เฟ็ล fallen ฟอลเลิน ตก หล่น

26

feel ฟีล felt เฟ็ลท felt รู้สึก

27

fight ไฟท fought ฟอท fought ต่อสู้

28

find ไฟนด found  เฟานดึ found พบ

29

fly ฟลาย flew ฟลู flown ฟโลน บิน

30

forbid ฟอบิด forbade ฟอเบด forbidden ฟอบิดเดิน ห้าม

31

forget ฟอเก็ท forgot ฟอก็อท forgotten ฟอก็อทเทิน ลืม

32

freeze ฟรีส froze โฟรส frozen โฟรสเซิน แข็งตัว หนาว

33

get เก็ท got ก็อท got เอา ได้รับ

34

give กิฝ gave เกฝ given กิฝเฝิน ให้

35

go โก went เว็นท gone กอน ไป

36

grind กรายด ground  กราวด ground บด ลับ

37

grow กโร grew กรู grown กโรน เติบโต, ปลูก

38

hang (pictures) แฮง hung ฮัง hung แขวน ห้อย

39

hang (people) แฮง hanged  แฮงด hanged แขวนคอ

40

have แฮฝ had แฮด had มี

41

hear เฮีย heard เฮิด heard ได้ยิน

42

hide ฮายด hid ฮิท hidden ฮิดเดิน ซ่อน

43

hurt เฮิท hurt hurt ทำร้าย

44

know โน knew นู known โนน รู้

45

lay เล laid เลด laid วาง ออกไข่

46

lead ลีด led เหล็ด led นำ

47

learn เลิน learnt เลินท learnt เรียนรู้

48

leave ลีฝ left เล็ฟท left ละทิ้ง, จากไป

49

lend เล็นด lent  เล็นท lent ให้ยืม

50

lie ลาย lay เล lain เลน นอน

51

light ไลท lit  ลิท lit จุดไฟ

52

lose ลูส lost ลอสท lost แพ้ ทำหาย

53

make เมค made เมด made ทำ

54

meet มีท met เม็ท met พบ

55

mistake มิสเตค mistook มิสตุค mistaken มิสเตคเคิน ทำผิด

56

pay เพ paid  เพด paid จ่าย

57

put พุท put put วาง

58

quit ควิท quitted ควิทเท็ด (or quit) quit ควิท เลิก

59

read หรีด read เหร็ด read เหร็ด อ่าน

60

ride รายด rode โรด ridden ริดเดิน ขี่

61

ring ริง rang แรง rung รัง สั่น (กระดิ่ง)

62

rise ไรซ rose โรส risen ริสเซิน ขึ้น ลุกขึ้น

63

run รัน ran แรน run วิ่ง

64

say เซ said เซด said พูด

65

see ซี saw ซอ seen ซีน เห็น

66

seek ซีค sought ซอท sought ค้นหา

67

sell เซ็ล sold โซลด sold ขาย

68

set เซ็ท set set จัด

69

shake เชค shook  ชุค shaken เขย่า สั่น

70

shine ชายน shone  โชน shone ส่องแสง

71

shrink ชริงค shrank  ชแรงค shrunk ชรัง หดลง สั้นลง

72

sing ซิง sang แซง sung ซัง ร้องเพลง

73

sink ซิงค sank แซงค sunk ซังค จม ถอยลง

74

sit ซิท sat แซ็ท sat แซ็ท นั้ง

75

slide สไลด slid สลิด slid สื่นไถล, เลื่อนไป

76

sleep สลีพ slept  สเล็พท slept นอนหลับ

77

speak สปีค spoke สโปค spoken สโปเคิน พูด

78

spin สปิน spun สปัน spun ม้วน กรอ ปั่นฝ้าย

79

split สปลิท split split แตก, แยก

80

spring สปริง sprang สแปรง sprung สปรัง โดดอย่างเร็ว, เด้ง

81

sting สติง stung  สตัง stung สตัง ต่อย, แทง

82

stink สติงค stank สแตงค stunk สตังค ส่งกลิ่นเหม็น

83

strike สไตรค struck สตรัค struck ตี, ต่อย? กระทบ

84

string สตริง strung สตรัง strung ผูกเชือก ขึงสาย

85

swear สแว swore สวอ sworn สวอน สาบาน ปฏิญาณ

86

swell สเว็ล swelled สเว็ลด swollen สวอลเลิน โตขึ้น หนาขึ้น

87

swim สวิม swam สแวม swum ว่ายนํ้า

88

swing สวิง swung สวัง swung แกว่ง, เหวี่ยง

89

take เทค took ทุค taken เทคเคิน เอา พาไป

90

teach ทีช taught ทอท taught สอน

91

tear แท tore ทอ torn ทอน ฉีก ขาด

92

tell เท็ล told โทลด told บอก

93

think ธิง thought  ธอท thought คิด

94

throw ธโร threw ธรู thrown ธโรน เหวี่ยง ขว้าง

95

wake เวค woke โวค waken เวคเคิน ตื่น, ปลุก

96

wear แว wore วอ worn วอน สวม, ใส่

97

weave วีฝ wove โวฝ woven โวฝเฝิน ทอผ้า, สาน

98

weep วีพ wept เว็พท wept ร้องไห้

99

win วิน won ว็อน won ชนะ

100

write ไรท wrote โรท written ริทเทิน เขียน
       
       

REGULAR VERB กริยาปกติ

ช่อง 1 ช่อง 2 ช่อง 3 แปล

1

answer answered answered ตอบ (คำถาม) รับ (โทรศัพท)

2

arrive arrived arrived มาถึง ไปถึง

3

attend อะเท็นด attended อะเท็นเด็ด attended (เข้าร่วม) ประชุม

4

beg เบก begged เบกด begged ขอ

5

call  คอล called คอลด called เรียก โทรหา

6

change เชนจึ changed เชนจดึ changed เปลี่ยน

7

clean คลีน cleaned คลีน cleaned  ทำความสะอาด

8

cook คุค cooked คุคท cooked ทำอาหาร

9

cry คราย cried ครายด cried ร้องไห้

10

dance แดนซ danced แดนซท danced เต้นรำ

11

die ดาย died ดายด died ตาย

12

deliver ดิลิฝเวอะ deliverd ดิลิฝเวิด deliverd ส่งถึงที่

13

drop ดร็อพ dropped ดร็อพท dropped (น้ำ) หยด

14

end เอนด ended เอนดิด ended จบ

15

fix ฟิกซ fixed ฟิกซท fixed ซ่อม

16

hate เฮท hated เฮททิด hated เกลียด

17

help เฮ็ลพ helped เฮ็ลพท helped ช่วย

18

kiss คิส kissed คิสท kissed จูบ

19

lift ลิฟท lifted ลิฟเท็ด lifted ยก

20

listen ลิซเซิน listened ลิซเซินด listened ลิซเซินด ฟัง

21

live ลิฝ lived ลิฝด lived อาศัยอยู่

22

look ลุค looked ลุคท looked มอง

23

love เลิฝ loved  เลิฝด loved รัก

24

move มูฝ moved มูฝด moved มูฝด ย้าย  ขยับ

25

need นีด needed นีดเด็ด needed นีดเด็ด ต้องการ

26

paint เพ๊นท painted เพ๊นทิด painted วาดภาพ  ระบายสี

27

plan แพลน planned แพลนด planned วางแผน

28

play เพล played พเลด played เล่น

29

rain เรน rained เรนด raind ฝนตก

30

return returned returned กลับคืน

31

serve เสิฝ served เสิฝ served เสิร์ฟ

32

shop ช็อพ shopped ช็อพท shopped จ่ายตลาด

33

smoke สโมค smoked สโมคท smoked สโมคท สูบบุหรี่

34

sneeze สนีส sneezed สนีสด sneezed จาม

35

snow สโน snowed สโนด snowed หิมะตก

36

stay สเต stayed สเตด stayed พักอาศัย

37

stop สต็อพ stopped สต็อพท stopped หยุด

38

study สตัดดิ studied สตัดดิด studied เรียน

39

talk ทอค talked ทอคท talked สนทนา

40

travel แทรเวิล traveled แทรเวิลด traveled ท่องเที่ยว

41

visit วิสิท visited วิสิทเท็ด visited วิสิทเท็ด เยี่ยม  เที่ยว

42

wait เวท waited เวททิด waited รอ

60 ความเห็น

  1. nattapong tanon m.301 no 4 พูดว่า:

    ได้รู้ความของหมายกริยา 3 ช่อง

  2. pitukpong พูดว่า:

    ได้ทราบว่าโครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้ช่องที่หนึ่งบ้าง สองบ้าง หรือสามบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเป็น Tense อะไร

  3. Pirapat wanlai.301 no 7 พูดว่า:

    ทำให้รู้ว่ากริยา 3 ช่อง คือ อะไร กริยาสามช่องนี้จะนำไปใช้เมื่อเราเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tense ครับ เพราะโครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้ช่องที่หนึ่งบ้าง สองบ้าง หรือสามบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเป็น Tense อะไร
    และได้รู้ตัวอย่างกริยา 3 ช่อง ที่ใช้บ่อยๆ

  4. กริยา3ช่อง คือคำเรียกที่ให้ง่ายแก่การเข้าใจ มี3 ช่อง

  5. kanokpit Muangma no.13 m.3/1 พูดว่า:

    กริยา 3 ช่องมี be = is, am, are was, were been เป็น อยู่ คือเช่น
    become (บิคั๊ม), became (บิเค๊ม) , become กลายเป็น
    bet เบ็ท ,bet เบ็ท, bet พนัน
    fight ไฟท, fought ฟอท, fought ต่อสู้

  6. Sawitchaya Maita M. 3/1 No. 30 พูดว่า:

    กริยา 3 ช่อง มีความรู้ที่ได้จากการเปลียนรูปของคำศัพท์ ในแต่ละตัวเพื่อให้มีความถูกต้องต่อการใช้กริยา 3 ช่อง และยังรู้คำศัพท์อีกมากมาย

  7. supaporn 3/1 no.28 พูดว่า:

    ได้รู้กริยา 3 ช่องว่ามีความเเตกต่างกันอย่างไรเเละใช้กับประโยคที่เป็นยังไง เพราะโครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้ช่องที่หนึ่งบ้าง สองบ้าง หรือสามบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเป็น Tense อะไร

  8. Nirut Poolampong No.5 class3/1 พูดว่า:

    ได้รู้เรื่องกริยา 3 ช่องเพิ่มมากขึ้น ได้รู้การใช้คำศัพท์ของช่องต่างๆ

  9. pakapong wongchaiya m.3/1 no.8 พูดว่า:

    ไดรู้เกี่ยวกับการใช้กริยา 3 ช่องคือคำเรียกที่ให้ง่ายแก่การเข้าใจ เพราะมันมีสามช่อง กริยาสามช่องนี้จะนำไปใช้เมื่อเราเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tense เพราะโครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้ช่องที่หนึ่งบ้าง สองบ้าง หรือสามบ้าง
    กริยา 3 ช่อง ที่ใช้บ่อยๆ

  10. Wipada Indee 3/1 no.25 พูดว่า:

    ได้รู้ว่าการใช้กริยา 3 ช่องเป็นอย่างไร สามารถใช้กับประโยคชนิดใด
    เพราะโครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้ช่องที่หนึ่งบ้าง สองบ้าง หรือสามบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเป็น Tense อะไร หลังจากที่เรียนเรื่อง Tense

  11. Chanyanuch tipdacho no.19 m.3/1 พูดว่า:

    กริยา 3 ช่อง โครงสร้างของแต่ละ tense จะไม่เหมือนกัน
    ตัวอย่างเช่น – dig ดิก dug ดัก dug ขุด
    – shop ช็อพ shopped ช็อพท shopped จ่ายตลาด

  12. ืืNattikan Kaenjan M. 3/1 No. 20 พูดว่า:

    จากการศึกาาทำให้ดิฉันรู้ว่า
    กริยา 3 ช่อง คือ คำเรียกที่ให้ง่ายแก่การเข้าใจ เพราะมันมีสามช่องนั่นเอง กริยาสามช่องนี้จะนำไปใช้เมื่อเราเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tense เพราะโครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้ช่องที่หนึ่งบ้าง สองบ้าง หรือสามบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเป็น Tense อะไร

  13. Chonnikan Glamprasert M.3/1 No.16 พูดว่า:

    จากที่ได้ศึกษาทำให้รู้ว่าโครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้ช่องที่หนึ่ง สองหรือสาม ขึ้นอยู่กับว่าเป็น Tense อะไร

  14. Aungkanang Wanjai no.29 m.3/1 พูดว่า:

    โครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็น Tense อะไร

    กริยา 3 ช่องที่เห็นได้บ่อยๆ ยกตัวอย่าง เช่น

    – wait เวท waited เวททิด waited รอ
    – talk ทอค talked ทอคท talked สนทนา
    -Shop ช็อพ shopped ช็อพท shopped จ่ายตลาด

  15. Sitanan Khamsu M.3/1 No.26 พูดว่า:

    กริยา 3 ช่อง คือ คำเรียกที่ให้ง่ายแก่การเข้าใจ กริยา 3 ช่องจะมีมากกว่า 142 ตัว เช่น give กิฝ gave เกฝ given กิฝเฝิน ให้ , go โก went เว็นท gone กอน ไป เป็นต้น

  16. Jirapat Kamruang 3/1 Number 1 พูดว่า:

    ได้ความรู้เกี่ยวกับกริยา 3 ช่องมากๆเลยคับ

  17. sukun khongam no.11 m.3/1 พูดว่า:

    ได้ทราบว่ากริยา3ช่อง โครงสร้างของมันจะมี tense ที่ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่ว่าจะเป็น Tense อะไร

  18. Nichakarn khamlue no.21 m.3/1 พูดว่า:

    ได้ทราบว่ากริยา3ช่อง แต่ละโครงสร้างของมันจะมี tense ที่ไม่เหมือนกันจะขึ้นอยู่ว่ามันเป็น Tense อะไร บ้างที่ก็อาจจะใช่ช่อง ที่ 1 2 3 ก็เป็นได้

  19. netipong sankwan No.6 M.3/3 พูดว่า:

    ผมได้รู้ว่า tense มีอยู่หลากหลายความหมายมาก

  20. nratid seeta No.7 M.3/3 พูดว่า:

    ผมได้รู้ว่า tense มีความหมายเเตกต่างกันไปตามรูปประโยค

  21. jamaree muangsuwan no.21 m 3/3 พูดว่า:

    หลังจากที่ดิฉันได้ศึกษาในเรื่องกิริยา 3 ช่อง แล้วดิฉันได้รู้ทั้งเรื่อง กริยาอปกติ เรื่องกริยาปกติ ทำให้ดิฉันได้นำความรู้นี้ไปใช้ในการศึกษา

  22. nattapong butsuwan No.8 M.3/3 พูดว่า:

    tense ก็เป็นความรู้อย่างหนึ่งที่ผมได้เข้าใจอย่างดี ขอบคุณครับ

  23. Thitirat fuangfoo No.22 M.3/3 พูดว่า:

    ได้ทราบว่ากริยาเปนอย่างไรบ้าง และใช้กับประโยคแระโครงสร้างของแต่ละ Tenseไม่เหมือนกัน

  24. narueporn chailangka m.3/3 no.24 พูดว่า:

    ได้รู้ว่าในกริยา3ช่องมีอะไรบ้าง และใช้ทำประโยคในการเขียนคำแต่ละประโยค

  25. Ratchanat Fusee 3/3 no.25 พูดว่า:

    ได้รู้จักกริยา3ช่องและสามารถนำไปใช้ในประโยคและได้รู้ว่าโครงสร้างของแต่ล่ะTenseไม่เหมือนกัน

  26. Wannika Pumprik No.19 m 3/3 พูดว่า:

    จากการที่ดิฉันได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง กิริยา 3 ช่อง ทำให้ดิฉันได้มีความรู้มากขึ้นและสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย

  27. Kritmatee Boonwong m.3/3 No.1 พูดว่า:

    ได้เข้าใจว่า Tense ใช้ยังไง และได้ทราบโครงสร้างของ Tense ทั้งสามช่อง

  28. rittidat taveekul 3/3 no16 พูดว่า:

    ผมได้รู้ว่ากริยา 3 ช่องกริยาสามช่องนี้จะนำไปใช้เมื่อเราเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเพราะโครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน หลังจากที่เรียนเรื่อง Tense เข้าใจว่าที่เรียกว่าสามช่องเพราะอะไร ขอบคุณครับ

  29. Patiphon Koprae M.3/3 No.10 พูดว่า:

    โครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้ช่องที่หนึ่งบ้าง สองบ้าง หรือสามบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเป็น Tense อะไร หลังจากที่เรียนเรื่อง Tense เข้าใจแล้วรับรองว่าจะหายงงเลยครับว่าที่เรียกว่าสามช่องเพราะเหตุใด

  30. nutcha yadee 3/3 no.23 พูดว่า:

    ได้ทราบว่ากริยาช่องที่3สามารถนำไปใช้ในประโยค บางที่ก็ช่องที่หนึ่ง ช่องสอง ช่องสาม ขี้นอยู่กับแต่ละTense อะไร

  31. siriwun boonsuk No.27 M.3/3 พูดว่า:

    ได้รู้ว่ากริยามี 3 ช่องและใช้ในประโยคอะไร และโครงสร้างไม่เหมือนกัน

  32. tanongsak boonsook m.3/3 No.5 พูดว่า:

    ได้เข้าใจว่า Tense ใช้ยังไง และได้ทราบโครงสร้างของ Tense ทั้งสองช่อง

  33. Nattawat M.3/3 No.3 พูดว่า:

    เพราะมันมีสามช่องนั่นเอง กริยาสามช่องนี้จะนำไปใช้เมื่อเราเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tense ครั

  34. areerak kumpeera m.3/3 no.28 พูดว่า:

    ทำให้รู้ว่าการใช้กริยา3ช่องเป็นอย่างไรและใช้ประโยชน์แบบไหนและเป็นโครงสร้างของ Tense

  35. pongpon suparom M.3/3 No.13 พูดว่า:

    ได้รู้ว่า Tense ใช้อย่างไรและได้รับรู้โครงสร้าง Tense

  36. Walairuk Ponsmoot M.3/3 N.26 พูดว่า:

    เราจะได้รู้ว่ากริยาสามช่องคืออะไร แล้วใช้อย่างไร เราจะได้ทราบโครงสร้างของแต่ละTens

  37. patipon somkaun No.11 M.3/3 พูดว่า:

    ผมได้รู้ว่าโครงสร้างของtenseของแต่ละโครงสร้างไม่เหมือนกันขี้นอยู่กับการใช้ของtense

  38. aphisit yodkaew No.12 M.301 พูดว่า:

    ได้รู้ว่าโครงสร้าง Irregular Verb และ REGULAR VERB ของแต่ละช่องจะไม่เหมือนกันแต่ความหมายเหมือนเดิม

  39. pharit suya no.6 m.3/1 พูดว่า:

    ได้รู้ว่ากริยาในภาษาอังกฤษใช้ต่างกันแล้วแต่ประโยคว่าพูดถึงอดีต ปัจจุบัน อนาคต เช่น be = is, am, are

    was, were

    been

    หมายถึงเป็น อยู่ คือ
    ใช้ต่างกันแล้วแต่กับประโยค

  40. Penpan Jakkheaw M.3/1 No.23 พูดว่า:

    ดิฉันได้ศึกษากริยา 3 ช่อง ได้รู้ว่าความหมายกับกริยา 3 ช่องว่าเป็นคำช่องที่หนึ่ง สอง สาม มีความหมายที่เหมือนกันแต่เขียนคำศัพท์ไม่เหมือนกันในแต่ละช่องค่ะ

  41. Dawanong Pongkhao No.32 M.3/1 พูดว่า:

    กริยา 3 ช่องนั้น จะใช้แตกต่างกันไปในรูปแบบของประโยค เช่นกริยาช่องที่1 ใช้ในประโยคที่เป็น Simple tense กริยาช่องที่2 ใช้กับ Past tense และ กริยาช่องที่3ใช้กับ Future tense

  42. suttimontar kruekham M.3/1 No.27 พูดว่า:

    จากที่ดิฉันได้ศึกษาข้อมูลด้านบนแล้วทำให้ดิฉันทราบว่า กริยาแต่ละช่องเปนอย่าไร แตกต่างกันอย่างไร และได้ทราบคำศัพท์แล้วความหมายเยอะแยะมากมายด้วย

  43. ชิตพงศ์ อาเทศ พูดว่า:

    ได้รู้ ว่า มี 3 ช่อง และแต่ละช่องเขียนยังไง เติม ยังไง

  44. chitpong arted No.2 M. 3/1 พูดว่า:

    ได้รู้ ว่า มี 3 ช่อง และแต่ละช่องเขียนยังไง เติม ยังไง

  45. Chaowalee Siritunyarut m.3/1 No.15 พูดว่า:

    จากการศึกษา โครงสร้างไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการใช้ Tense ค่ะ

  46. Suphanan Kaewnoy M.3/1 No.31 พูดว่า:

    จากการศึกษาจากข้างบนแล้วทำให้รู้ว่าโครงสร้างของแต่ละช่องจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับ Tense ของแต่ละช่อง และกิริยาในภาษาอังกฤษตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น 3 ช่อง เรียกว่า “กิริยา 3 ช่อง” ซึ่งแต่ละ ช่องก็บอกถึง เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย
    กิริยาช่องที่ 1 ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
    กิริยาช่องที่ 2 ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
    กิริยา ช่องที่ 3 ใช้กล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปอย่างสมบูรณ์ทั้งในปัจจุบันและอดีต เรียก อีกอย่างหนึ่งว่า “ส่วนสมบูรณ์ของกิริยา หรือ Complement ค่ะ

  47. ด.ญ.ชลลดา ปั๋นของ เลขที่ 18 ชั้น ม.3/1 พูดว่า:

    กริยาในภาษาอังกฤษใช้ต่างกันแล้วแต่ประโยคว่าพูดถึงอดีต ปัจจุบัน อนาคต ค่ะ

  48. Chonlada Phunkhong no. 18 m.3/1 พูดว่า:

    กริยาในภาษาอังกฤษใช้ต่างกันแล้วแต่ประโยคว่าจะพูดถึงอดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคต ค่ะ

  49. ด.ญ.ดวงกมล ยงเขตรการณ์ ม.3/1 เลขที่ 22 พูดว่า:

    ได้รู้ว่ากริยา 3 ช่อง มีโครงสร้างของแต่ละ Tense ไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้ช่องที่หนึ่ง สอง หรือสาม ขึ้นอยู่กับว่าเป็น Tense อะไร

  50. Nattawoot krungsanook M.3/3 NO.4 พูดว่า:

    กริยา 3 ช่องนั้น จะใช้แตกต่างกันไปในรูปแบบของประโยค เช่นกริยาช่องที่1 ใช้ในประโยคที่เป็น Simple tense กริยาช่องที่2 ใช้กับ Past tense และ กริยาช่องที่3ใช้กับ Future tense

  51. Siriwun Boonsuk m.3/3 No.27 พูดว่า:

    จากการที่ได้ศึกษาข้อมูลข้างต้น ได้รู้ว่ากริยาแต่ละช่องแตกต่างกันและมีการใช้ที่แตกต่างกัน ค่ะ

  52. janjira chumwong NO. 20 M. 3/3 พูดว่า:

    จากการที่ดิฉัน ได้ศึกษาแล้ว ดิฉันได้ความรู้มากมาย ได้ความรู้เพิ่มเติมอีกมาก ได้รู้การใช้กริยา 3 ช่อง

  53. poomminnaprae พูดว่า:

    ได้รับความรู้เกี่ยวกับกริยา ๓ ช่อง ซึ่งแต่ละช่องก็บอกถึง เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย

  54. ornpwee Duangkeaw No.32 M.3/2 พูดว่า:

    จากการที่ศึกษาเรืื่องกริยา สาม ช่องมา ดิฉันได้รู้เกี่ยวกับการใส่กริยาสามช่องได้อย่างไร และประกอบด้วยอะไร
    และได้ความรู้มากมาย

  55. sirirat Rupsung M.3/2 No30 พูดว่า:

    กริยา3ช่อง ข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อฉันมากเลยค่ะทั้งให้ความรู้และสามา้นั้นไปใช้ในบทเรียนที่ดิฉันกำลังจะได้เรียนบทต่อไปค่ะ 🙂

  56. pitukpong พูดว่า:

    เก่งมากจร้า

  57. O サービス。 พูดว่า:

    Apologize for the comment that she probably would not have been reading at first. In fact, I would like to say that from the request saying she’s done very well.

ส่งความเห็นที่ Nattawoot krungsanook M.3/3 NO.4 ยกเลิกการตอบ